วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

ชีวิตนี้งามงดและสดชื่น

ขอบคุณรูปภาพจาก
http://www.phanpha.com/sites/default/files/imagecache/product_full/book06/8858720701569.JPG

ชีวิตแท้ งามงดและสดชื่น
PURE LIFE IS SPLENDID AND REFRESHING
ชีวิตเหลือ แต่ความเย็น เป็นนิพพาน

ชีวิตแท้   งามงด   และสดชื่น
ไม่มีฝืน   ไม่มีหวั่น   ไม่สั่นเสียว
ไม่มีสิ่ง   หลงรัก   สักสิ่งเดียว
ไม่มีจิต   เกาะเกี่ยว   ทั้งบาปบุญ

ทรัพย์ในเรือน   เป็นเหมือน   ของเกลื่อนกลาด
ที่เป็นบาป   เก็บกวาด   ทิ้งใต้ถุน
ที่เป็นบุญ   มีไว้   เพียงเจือจุน
ให้เป็นคุณ   สะดวกดาย   คล้ายรถเรือ...

ไม่ยึดมั่น   สิ่งใด   เอาใจแบก
กลัวแตกตาย   ใจประหวั่น   จนฟั่นเฝือ
เบาทั้งกาย   เบาทั้งใจ   ไม่มีเบือ
ชีวิตเหลือ   แต่ความเย็น   เป็นนิพพาน

                             พุทธทาสภิกขุ
จากปฏิทินธรรม ปี ๒๕๕๖ (สำนักพิมพ์สุขภาพใจ) - See more at: http://www.sunyatadham.org/forum/index.php?topic=278.0#sthash.J0uFSjwr.dpuf

ชีวิตที่แท้ สะอาด สว่าง สงบ งามงดและสดชื่น
อ.ประมวลกล่าวว่าหากชีวิตนี้ยังไม่งามงดและสดชื่น ชีวิตนี้ยังไม่ใช่ชีวิตที่แท้
ผมตั้งคำถามกับตัวเองว่าชีวิตผมที่ผมนิยามมานั้นว่ามันไม่งดงามเลย มันลำบากมันมีวิบากมันมีสิ่งขัดข้องอยู่เสมอ มันไม่สมดุลในสัมผัสที่ผมได้รับ ดังนี้ผมได้รับรู้ชีวิตที่แท้หรือยัง ทิษฐิมานะพาไปให้เห็นว่าอย่างไรเสียมันก็ยังเป็นชีวิตของผม หากผมยังไม่งามงดเป็นเพราะผมนิยามมันหรือสังคมให้ค่า หากมันไม่สดชื่นก็เป็นเพราะผมรู้สึกเช่นนั้น ทุกขณะที่ผมรู้ตัวผมจะยอมรับ"ชะตากรรม" ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าผมต้องชดใช้ชดใช้สิ่งที่ผมทำโดยไม่ระวัง โดยคิดไม่รอบคอบในอดีต
ถ้าผมนิยามมันใหม่ว่ามันงดงามแล้วและชื่นชมมัน ทั้งทั้งที่สังคมประณามว่ามันเลวทราม เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ความคิดนี้มันขัดแย้งกัน มันเป็นทวิลักษณ์ ผมตั้งคำถามว่าหากเป็นดั่งนี้แล้วจะมีหลักใดให้ยึดในการนิยามความงามงดสดชื่นได้บ้าง รวมทั้งการให้นิยามต่อ ความสุข ความทุกข์ ความงาม ความดี และความจริง มันมีหลักใด
ในสิ่งที่ผ่านมากับความทรงจำ ท่าน อ.ประยุต ประยุตโต บอกว่าถ้านิยามโดยตัวเองเป็นอัตตาธิปไตย ถ้าฟังสังคนส่วนใหญ่มันเป็นประชาธิปไตย และถ้ามันถูกต้องตามธรรมมันเป็นธรรมาธิปไตย ปัญหาของผมคือธรรมคือคืออะไร มันก็มีนิยามอีกเยอะแยะ และเป็นนิยามที่สร้างขึ้้นมาเพื่อใช้ ใช้บังคับ ควบคุมมันมีพลังในการควบคุมความคิดของผมด้วย นิยามจากตนเอง สังคม และธรรมที่ยังสงสัย
ผมถูกใจความคิดคติของอินเดียที่อ.ประมวล เพ็งจันทร์ บอกว่าชีวิตเผชิญกับความจริงที่มันบีบคั้นด้วยจิตนาการ และหากเราสมดุลได้ไม่อยู่กับความบีบคั้นมากเกินไป ไม่หลงกับจินตนาการมากเกินไป เราก็คงอยู่ได้อย่างงามงดและสดชื่น
ผมคงต้องแสวงหาต่อไป แสวงหาชีวิตที่แท้ อันงามงดและสดชื่นต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น