วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

My life,my destiny,my way.

ผมจำความได้ ผมอยู่ในห้องเก็บของตั้งแต่เด็ก มีชีวิตต่อมาในโลกกว้าง ปัจจุบันผมอยู่ในห้องเก็บของ และจะอยู่จนวันสุดท้ายของชีวิต

(บันทึกต่อ 22 มิถุนายน 2566)

ห้องเก็บของในตอนอายุยังน้อยอายุประมาณ 10 ขวบ (ปี) เป็นห้องเก็บไม่มีประตูปิด มีแตียงพับแต่เปิดตั้งไว้ตลอดเวลา เราต้องกางมุ้งนอน ไม่มีไฟหัวเตียง มีไฟดวงเล็กๆ ไว้อ่านหนังสือ มีโต๊ะสำหรับเขียนหนังสือที่ใส่หนังสือ มีตู้เก็บของอยู่ด้านข้าง เวลาต้องการของคนอื่นเข้ามาค้นได้ทันที

ห้องเก็บของที่นอนในตอนอายุ 60 ปี เป็นห้องเก็บของที่เอาห้องนอนมาเก็บของ มีตู้ มีชั้นและมีของเก็บมามาย มีเตียงพับพับเก็บและกางยามนอน มีมุ้งลวด (ของเก็บจนล้นออกไปนอกห้อง) มีประตูเปิดปิด ยามกลางวันเปิดไว้ เมื่อนอนปิดไว้แต่ไม่ได้ลงกลอน เปิดได้ตลอดเวลา

 


วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

คุณเห็นอะไรบ้าง



ในวันอันหนาว เย็นชื้น ไร้แสงแดด ไร้เสียงนกกา ผู้คน สรรพสัตว์ สงบ
พระผู้ใหญ่ฆ่าตัวตาย พระผู้ใหญ่มรณะภาพ พระผู้ใหญ่อีกองค์ถูกกล่าวหา ศาสนจักรไม่น่าเป็นที่พึ่ง
ตุ๊กตาลูกเทพ มาช่วย หินสี มาช่วย หินทิเบต มาช่วย จตุคามรามเทพ มาช่วย
ผู้บริหารความกลัว สร้างความกลัว โดยความกลัว เพื่อความกลัว
อากาศแปรปรวน จิตใจคนมั่นคง มั่นคงในความกลัว
เวลาผ่านไปอากาศก็เปลี่ยนแปร เปลี่ยนตามธรรมชาติ สภาพอากาศไม่เคยพึ่งอะไร มันเป็นของมันอย่างนั้นเอง
เวลาเปลี่ยนไป จิตใจแปรเปลี่ยน เปลี่ยนตามเหตุปัจจัย ภายนอกประกอบกับภายใน
ความน่ากลัวภายนอก ความไม่กลัวภายใน กล้าทั้งๆ ที่กลัว
ความน่ากลัวภายนอก ความกลัวภายใน ไม่กล้าทั้งๆ ที่กลัว
ภายนอกน่ากลัว ภายในกลัวบ้างไม่กลัวบ้าง สงบจิตแล้วพิจารณา
ในวันอันหนาว เย็นชื้น ไร้แสงแดด ไร้เสียงนกกา ไร้สรรพสำเนียง เงียบและกลัว มันน่ากลัว

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

ชนชั้น


เหยียดคนจนบนบัตรทอง โดย ศิริพงษ์ วิทยวิโรจน์

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1451897138
"โปรดเลิกเอาเรื่องการเสียภาษีไปทวงบุญคุณกับใครต่อใครกันอย่างหยาบคาย"
 เราอยู่บนการหยามเหยียดและชนชั้นมานานมาก นานตั้งแต่ก่อนผมเกิด(2559 : 64 ปี) ประสบการณ์ตรงคือเป็นลูกคนรับใช้ในบ้านคนรวย คนจนอย่างเราต้องทำทุกอย่างเพื่อจะอยู่รอด ปี 2498  ผมอายุ 3 ขวบ แม่(เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวสมัยนี้)เป็นคนรับใช้ในบ้านคนรวยที่มีความเป็นญาติกันด้วย เราเรียกเจ้านายว่าคุณป้า คุณลุง นับญาติกับคนรวยแต่เราเป็นคนรับใช้ ผมจำความไม่ได้มากนักในวัยเด็ก และแม่ก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังมากด้วย แล้วผมก็ไม่เคยถาม 
คุณป้า คุณลุงมีลูก 3 คน เกิดไล่เรี่ยกัน และมีผมมาคั่นให้ครบด้วยเราเกิดเรียงกันตั้งแต่ปี 2493 2494 2495 และ 2496 แม่เล่าให้ฟังว่าตอนผมเด็กแม่เคยจะลาออกแต่คุณป้าบอกว่าจะส่งเสียให้ได้เรียนโรงเรียนเดียวกับลูกเขา แม่เลยอยู่ต่อ ที่บ้านนี้รวยมากคุณป้าเป็นหมอที่ีชีื่อเสียงอยู่โรงพยาบาลเอกชน คุณลุงเป็นข้าราชการระดับสูง(ตำแหน่งสุดท้ายปลัดกระทรวง หลังเกษียณแล้วยังเป็นข้าราชการการเมืองตำแห่งรัฐมนตรีช่วยฯ)
ตอนเด็กได้เล่นสนุกกับลูกคนรวย และลูกฝรั่งที่มาเช่าบ้านคุณป้าคุณลุงอยู่ ได้เรียนหนังสือโรงเรียนลูกคนรวย(โรงเรียนเอกชน) ได้นั่งรถเก๋งที่คุณป้าขับไปส่งทุกวัน (ไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปส่งผม แต่ส่งลูกเค้าแล้วผมติดรถไป ก่อนนั่นทุกวันผมก็เป็นคนล้างรถเช็ดรถคันนั้นและอีกหลายคันในบ้าน นอกจากการรถน้ำต้นไม้ กวาดบ้านถูบ้าน ทำสวนในวันเสาร์อาทิตย์ พอโตขึ้นมาหน่อยก็ซ่อมสาระพัดซ่อมในบ้าน เป็นทั้งช่างไม้ ช่างปูน ช่างไฟ ช่างประปา สาระพัดช่าง) พอจบประถมแม่บอกให้ไปสอบเข้าเรียนโรงเรียนรัฐ ผมสอบเข้าเรียนโรงเรียนไม่ดังมากแต่ดังพอที่อาจารย์ใหญ่เข้ากรมจะเป็นอธิบดีได้ แม่บอกว่าค่าเล่าเรียน(ปีละ 400 บาท)แม่ออกเองแม้คุณป้าต้องการจะออกให้ รวมทั้งค่าเสื้อผ้าและอะไรต่างๆ ไม่ต้องการให้คุณป้าออกให้ แม่แอบกระซิบว่าไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณ มากไปกว่านั้นแม่ไม่ต้องการให้ผมเป็นทาสในเรือนเบี้ยต่อไป
ผมออกจากบ้านนั้นไปทำงานต่างจังหวัดเมื่ออายุ 20 ปี และต่อจากนั้นอีกห้าปีแม่ก็ย้ายออกมาอยู่เองมาเผชิญชีวิตเอง(แม่แต่งงานใหม่และมีลูกอีกสี่คน)
ผมไม่เคยกลับไปที่บ้านนั้นเลยหลังจากแม่ย้ายออกมา และไม่รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณด้วย ระหว่างที่อยู่ผมทำงานให้ไม่ได้รับค่าจ้างค่าออน เป็นทาสติดเรือนแต่แม่ไม่ยอมให้น้องๆ ต้องลำบากเหมือนผมแม่พยายามกันไว้ ผมเรียนประถม 6 ปี (สมัยนั้นมีชั้นประถม 7 แต่ผมเรียน 6 ปี) ผมทำงานฟรีมากอีก มากกว่า 12 ปีกว่าจะออกจากบ้านนั้นมา( บ้านที่ผมทำงานอยู่ต่างจังหวัดเมื่อกลับไปต้องไปซ่อมรั้ว ) ถ้าเป็นการรับทุนผมใช้ทุนตามเงื่อนไขแล้ว ผมไม่ค่อยติดเรื่องหนี้บุญคุณเท่าไร ทุนราชการใช้หนี้เวลาสองเท่า แต่ยังได้รับเงินเดือน ผมใช้หนี้เวลาสองเท่าและทำบุญให้กับคนรวยด้วยแรงงานอีก 12 ปี ผมไม่เคยเป็นลูกหนี้ และเจ้าหนี้ หนี้เก่าชดใช้แล้ว มีแต่บุญที่ไม่เคยทวง
บุญคุณที่เป็นอาวุธของชนชั้นสูง ใช้ทวงเอากับคนชั้นต่ำอย่างเรา เป็นสิ่งที่ตราไว้เป็นสิทธิ์ที่คนรวยสร้างด้วยการกล่าวอ้างสนับสนุนด้วยศาสนาที่สร้างชนชั้นอันไม่รื้อถอน (ศาสนาที่แก่งแย่งกันเป็นใหญ่ใช่การละชนชั้นแต่สร้างชนชัน) บุญคุณที่จะกดทับและเป็นเครื่องมือในสงครามชนชั้น
บุญคุณที่ปัจจุบันคนที่พยายามไต่ชนชั้นใช้มากกว่าชนชั้นสูงเสียอีก
บุญคุณที่ถูกอ้างไม่มีจริงสิ่งปลูกสร้างเดิมต้องรื้อถอนก่อนปลูกสิ่งใหม่
เลิกอ้างบุญคุณที่ไม่มีจริงเถอะครับ

วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559

วันเปิดปี 2559

ปีที่ผ่านมาเราเรียนรู้อะไรบ้าง ชีวิตสอนอะไรเราบ้าง เราเรียนรู้หรือชีวิตสอนเรา
ปีที่ผ่านมาเดินทางตอนต้นปีเพื่อไปร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นวิทยากรบ้าง ตอนกลางปีไม่ค่อยได้ไปไหนและตอนปลายปีได้ไปเป็นวิทยากร หลักสูตรเกี่ยวกับการสร้างพลังกลุ่ม ผู้นำการเปลี่ยนแปลงและผู้บริหารในเรื่องการจัดการความรู้

ชีวิตที่เป็นไปสอนเราเยอะแต่ไม่ได้บันทึกไว้

เรียนรู้ที่จะมีชีวิตต่อไป มีชีวิตที่จะได้เรียนรู้ต่อไป