ช่วงชีวิตเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๗ วิกฤติของชีวิตครั้งที่เท่าไรจำไม่ได้ เป็นเรื่องส่วนตัวที่ค้างคาและก่อเกิดปัญหาอีกมากมายตามมา
ช่วงนั้นชีวิตมีศีลธรรมบริบูรณ์ ทานอาหารมื้อเดียว ออกกำลังกาย ไม่ดื่มสุรา และเสพบุหรี ดูเหมือนประสพผลสำเร็จตามทางโลกย์ ได้ตำแหน่งใหม่ที่น่าชื่นใจ กำลังเรียนปริญญาโทใกล้จบ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นครั้งแรก(และครั้งเดียวในชีวิตทั้งที่ไม่ได้คาดหวัง แต่ขณะเดียวกัน คนที่อยู่กันมา ๑๗ ปี ก็ขอหย่า ชีวิตสุดโต่งข้างธรรมเลยกลับมาเป็นสุดโต่งข้างอธรรม
ดื่มสุรา เสพบุหรี และเพริดเพลินกับนารีแสงสีเสียง อะไรที่ทำให้ลืมความจริงได้มอมเมาเข้าไป
ผมพบกับอาจารย์โสรีช์ครั้งหลังสุดในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ |
ไปดำเนินชีวิตตามยถากรรมของตน
อาจารย์กระตุ้นให้ผม เข้าใจปัจจุบัน เห็นทางเลือก เลือกและตัดสินใจ ไม่ลังเลโดยผมกำหนดวันและลงมือปฏิบัติ ชีวิตที่เลือกของผมจีงเริ่มใหม่อีกครั้ง
ระลึกถึงอาจารย์เสมอ
ในชีวิตผม เมื่อมาถึงทางเลือกผมนึกถึงคำถามของอาจารย์ แล้วตั้งคำถามกับตัวเอง เพื่อเข้าใจปัจจุบัน เห็นทางเลือก เลือกและตัดสินใจ ไม่ลังเลที่จะปฏิบัติการ
ชีวิตของคนเราวิกฤติมีหลายครั้ง วิธีออกจากวิกฤติที่ดีนำพาเราไปได้เสมอวิธีของอาจารย์ทำให้ผมผ่านวิกฤติมาจนเกษียณอายุได้
ขอบคุณอาจารย์มากครับ